ทุกวันนี้เราต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรี เสียงพูดคุย เสียงจากการประชุมสัมมนา ฯลฯ ซึ่งเสียงเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญในการสื่อสาร หากแต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถรบกวนเราได้เช่นกัน ถ้าหากว่า “เราไม่ต้องการที่จะได้ยินเสียงนั้น”
กล่าวคือ ถ้าเรากำลังใช้สมาธิอยู่ในห้องทำงานของเรา ก็แน่นอนว่าเราย่อมไม่อยากจะได้ยินเสียงดนตรีดังๆ หรือเสียงสัมมนาดังๆ จากห้องข้างๆ แน่ๆ นั่นเองจึงทำให้ “การป้องกันเสียง” นั้น สำคัญต่อการดำเนินชีวิต ทั้งกับผู้คนธรรมดาทั่วไป และกับผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นต้องใช้ห้อง และสร้างห้องเพื่อให้บริการลูกค้า อย่าง ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล หรือธุรกิจห้องพัก ฯลฯ อุตสาหกรรมเหล่านี้ล้วนจำเป็นต้องคำนึงถึงการออกแบบห้องที่สามารถป้องกันเสียงได้ดี เพื่อให้การใช้บริการของลูกค้าเป็นไปอย่างมีความสุขที่สุด
การป้องกันเสียงคืออะไร?
Sound Insulation หรือ การป้องกันเสียง หมายถึง กระบวนการลดพลังงานของเสียงที่ผ่านจากห้องหนึ่ง ไปยังอีกห้องหนึ่ง เพื่อให้เสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงของห้องที่อยู่ติดกันหรือใกล้เคียงกัน ไม่สร้างความรบกวนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ในการป้องกันเสียงนั้น อาศัยหลักการในการกั้นเสียง ให้ผ่านจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งให้น้อยที่สุด หรืออาจจะปิดกั้นไม่ให้เสียงผ่านไปได้เลย โดยอาศัยวัสดุหรือฉนวนที่มีลักษณะเป็นรูพรุน หรือ Open Cell ที่มีความสามารถในการดูดซับเสียงได้อย่างมาก
ซึ่งกระบวนการของการป้องกันเสียงนี้จะเกิดขึ้นโดยเมื่อเสียงวิ่งมาตกกระทบกับฉนวน พลังงานเสียงจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ด้วยเพราะการเสียดสีของพลังงานเสียงกับรูพรุนของวัสดุ และทำให้เสียงเบาลงในที่สุดนั่นเอง
ความสามารถของวัสดุกั้นเสียง
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นในการสร้างห้องต่างๆ การเลือกใช้วัสดุที่เป็นฉนวนซึ่งมีความสามารถในการกั้นเสียงนั้น ถือได้ว่ามีความสำคัญมาก เพราะห้องจะสามารถกั้นเสียงได้ดีมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบและเลือกใช้วัสดุในการกั้นเสียงเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถพิจารณาความสามารถในการกั้นเสียงได้จาก 2 ค่าสำคัญของวัสดุกั้นเสียง ดังต่อไปนี้
Sound Transmission Loss (STL) หมายถึง ค่าความสามารถในการลดการส่งผ่านของเสียงจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง โดยยิ่งค่านี้สูงมากเท่าไร ก็หมายความว่าสามารถลดเสียงได้มากเท่านั้น ทั้งนี้ ค่า STL จะถูกวัดที่หลายความถี่และถูกรายงานเป็นเดซิเบล เช่น วัสดุกั้นเสียง A สามารถลดการส่งผ่านของเสียงได้ 15 เดซิเบล หมายถึง เสียงจากแหล่งกำเกิดห้องหนึ่งที่มีระดับความเสียง 60 เดซิเบล เดินทางไปยังอีกห้องหนึ่งที่มี “ฉนวนกั้น” ที่มีค่า STL 15 เดซิเบล จึงทำให้เสียงจากแหล่งกำเนิด ถูกฉนวนกั้นเสียงเอาไว้จนระดับความดังเหลือ 45 เดซิเบล เป็นต้น
Sound Transmission Class (STC) หมายถึง ตัวเลขค่าเดียวที่แสดงสมรรถนะของการยอมให้เสียงจากอากาศผ่านไปได้มากน้อยแค่ไหนบนระบบกำแพง พื้น หรือฝ้าเพดาน โดยคำนวณจากค่า STL ที่ความถี่ต่างๆ หรือกล่าวโดยสรุปง่ายๆ ก็คือ ค่า STC เป็นค่าเฉลี่ยของค่า STL จึงทำให้ STC เป็นค่าที่บ่งบอกถึงการลดเสียงจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งของระบบผนังนั่นเอง ซึ่งยิ่งค่า STC มากเท่าไรก็หมายความว่า “ระบบกั้นเสียงของห้องนั้นๆ” มีประสิทธิภาพในการกั้นเสียงได้ดีมากเท่านั้น
การป้องกันเสียง ผ่านการออกแบบห้องด้วยวัสดุที่มีความสามารถในการป้องกันเสียงได้ดี ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับ “ห้องทุกห้อง” เพื่อให้ห้องแต่ละห้องสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี อันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ ในห้องนั้นๆ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบ ของผู้ประกอบการที่จะต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้กิจกรรมในห้องต่างๆ ภายในองค์กร สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ห้องต่างๆ ที่เปิดไว้สำหรับให้บริการลูกค้า สร้างความประทับใจและประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด
ฉนวนกันเสียง การป้องกันเสียงสำคัญแค่ไหน สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://noisecontrol365.com/